คิราซากิ สถานีรถไฟผี

คิราซากิ สถานีรถไฟผี

ญี่ปุ่นเป็นประเทศแถบเอเชียที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสถานที่สยองขวัญมากมาย โดยสถานีคิซารากิหรือสถานีรถไฟผีเองก็เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าหลอนๆ ที่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เชื่อว่ามีอยู่จริง ซึ่งหากเทียบกับเรื่องเล่าสถานที่ลึกลับมหัศจรรย์ในไทยแล้ว คิราซากิเปรียบเสมือนกเมืองลับแล ที่ใครก็ตามย่างก้าวเข้าไป จะไม่มีวันได้กลับออกมาอีกเลย

ความน่ากลัวของสถานีรถไฟผีคิราซากิ

จุดเริ่มต้นของตำนานสถานีรถไฟผีคิราซากินั้น มาจากเว็บบอร์ดหนึ่งของชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีหัวข้อกระทู้ว่า ให้ทุกคนมาร่วมแชร์เรื่องเล่าหลอนที่ตัวเองประสบพบเจอให้ผู้อื่นได้ฟังกัน โดยมีคอมเม้นต์หนึ่งที่ได้รับความนิยมและน่าขนลุกมาก อย่างคอมเม้นต์ที่ 98 เล่าว่า ขณะที่เขากำลังขึ้นรถไฟกลับบ้านได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น ในโบกี้มีคนเพียง 5 คน ซึ่งแต่ละคนหลับไม่ได้สติเหมือนไม่มีวิญญาณอยู่ในร่าง  ปกติแล้วรถไฟจะถึงสถานีภายใน 3-5 นาที แต่เขานั่งมานานถึง 20 นาทีแล้ว

ยังไม่มีวี่แววว่า รถไฟจะจอดเลย  เมื่อดูสถานีที่จะไปถึงก็ขึ้นว่า สถานีคิราซากิ ซึ่งเป็นสถานีที่เขาไม่รู้จักมาก่อน มีคอมเม้นต์ตอบกลับมากมาย ให้เขาลองเดินดูรอบๆและไปถามนายสถานีดูว่า รถไฟนี้จะมุ่งหน้าไปที่ไหนกัน เจ้าของคอมเม้นต์ที่ 98 จึงเดินไปถามที่หัวรถไฟ แต่ไม่มีใครยอมเปิดประตูหรือตอบกลับมาเลย

เขาจึงกลับไปนั่งรอที่เดิมจนกระทั่งรถไฟลอดผ่านอุโมงค์ ซึ่งเขาจำได้ว่า ทางที่เคยไปไม่มีอุโมงค์อยู่เลย ไม่นานรถไฟก็จอดเทียบชานชลา เหล่าคนคอมเม้นต์ก็ต่างเชียร์ให้เขาเดินลงไปดูที่ชานชลา แต่ทันทีที่เขาได้ก้าวเท้าลงจากรถไฟ ประตูรถไฟก็ปิดเองและรีบแล่นออกไปด้วยความเร็วสูง ชานชลานั้น เหมือนสถานที่รกร้างไม่ได้ใช้งานมาหลายปี เต็มไปด้วยต้นไม้เถาวัลย์เลี้ยวลด ไร้ซึ่งวี่แววของคนและสิ่งมีชีวิต เขาจึงตัดสินใจโทรหาพ่อแม่ว่า ตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ชานชาลาคิราซากิ มารับหน่อ

ย แต่พ่อแม่ก็ตกใจมากเพราะชานชลาที่นี้ไม่มีอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเลย เมื่อพ่อแม่ไปแจ้งตำรวจก็ถูกด่ากลับมาหาว่าเป็นพวกแจ้งความเท็จ สุดท้ายพ่อแม่จึงบอกให้เขามองไปรอบๆว่ามีจุดเด่นอะไรบ้างไหม พ่อแม่จะได้ขับรถออกตามหา ในตอนนี้แบตมือถือของเขาใกล้หมดเต็มทีแล้ว และพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินเข้าไปทุกที เขาจึงตัดสินใจเดินย้อนไปตามทางรถไฟเพื่อหวังว่าจะกลับไปสถานีก่อนหน้า แต่ในระหว่างที่เดินย้อนไปตามทางก็ได้เจอกับชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า

อย่าเดินตรงรางรถไฟมันอันตราย เมื่อเขาหันไปตามเสียงก็ต้องตกใจ เพราะชายคนนั้น มีเพียงแขนข้างเดียวและขาข้างเดียวเท่านั้นจึงรีบวิ่งหนีทันที เมื่อวิ่งไปเรื่อยๆในที่สุดเขาก็เจอกับอุโมงค์ที่รถไฟลอดผ่านมาและเมื่อลอดอุโมงค์ออกไปก็ได้เจอกับถนนใหญ่ เขาดีใจมากพิมพ์เล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ชาวเน็ตฟัง ซึ่งชาวเน็ตก็ต่างเชียร์ให้เขายืนโบกรถอยู่ริมถนน โดยในขณะนั้นเป็นเวลาตี 2 เกือบตี 3 แล้ว ในที่สุดก็มีคุณลุงท่าทางใจดีขับรถผ่านทางมาพอดี

เขาจึงขอติดรถไปด้วย แต่นั่งรถไปไม่เท่าไหร่ ชาวเน็ตก็เริ่มแคลงใจว่า เวลานี้บนที่รกร้างแบบนี้ จะมีใครขับรถมาตอนตี 2 กัน เขาจึงตัดสินใจทำตามที่ชาวเน็ตบอกว่าให้จอดรถใกล้ทางที่สุด จะเดินต่อไปจนถึงเมืองเอง  แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนขับ รถยังคงขับต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งประจวบเหมาะกับตอนที่แบตโทรศัพท์ของเขาหมดพอดี เขาจึงทิ้งท้ายไว้ว่า นี่อาจเป็นข้อความสุดท้ายที่เขาสามารถพิมพ์ได้ ถ้าถึงที่ปลอดภัยแล้วจะติดต่อกลับไป ให้ทุกคนได้รู้ แต่จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครได้รับข้อความติดต่อกลับจากคอมเม้นต์ที่ 98 อีกเลย

เรื่องราวของสถานีรถไฟผีคิราซากิ ยังคงเป็นเรื่องราวลึกลับที่มีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ เพราะเป็นคำเล่าบนเว็บบอร์ดเท่านั้นและคอมเม้นต์ที่ 98 ก็ใช้โปรไฟล์อวตาร ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ตามกฎเว็บไซต์ 

เครดิตภาพ 1 จาก www.storylog.co

เครดิตภาพที่ 2 จาก www.allwaysunmended.com

เครดิตภาพ 3 จาก www.otherside-picnic.fandom.com

#สถานีรถไฟผี #เรื่องผี #เรื่องลี้ลับ