เจาะลึกตำนาน ผีลิ้นแดงผู้ดูดกลืนมนุษย์แห่งความมืด อาคา-ชิตะ ( Aka-Shita ) 

เจาะลึกตำนาน ผีลิ้นแดงผู้ดูดกลืนมนุษย์แห่งความมืด อาคา-ชิตะ ( Aka-Shita ) 

     อาคา-ชิตะ เป็นปีศาจที่มีรูปร่างคล้ายกับกลุ่มก้อนเมฆขนาดยักษ์ โดยจุดเด่นของมันคือจะมีลิ้นสีแดงที่ยาวเฟื้อย โผล่ออกมาจากกลุ่มก้อนเมฆนั้น และลิ้นที่ยาวนั้นจะเลื้อยเพื่อหาร่างของมนุษย์เพื่อจับเข้าไปในก้อนเมฆและกินเป็นอาหาร โดยเชื่อว่าเรื่องราวของ  อาคา-ชิตะ  จะมีต้นกำเนิดจากการโดนกดขี่และการโดนโกงเรื่องที่ดินหรือน้ำที่ใช้ในการทำการเกษตรของเกษตรกรหรือชาวไร่ชาวนา การปรากฏตัวและต้นกำเนิดของ อาคา-ชิตะ ผีลิ้นแดงแห่งความมืด       อาคา-ชิตะ หรือผีลิ้นแดง มักจะปรากฏตัวในช่วงหัวค่ำหรือวันที่มีฝนตกหนัก โดยรูปร่างของผีลิ้นแดง จะมาพร้อมเมฆดำที่ปกคลุมใบหน้าที่มีขนดก มีกรงเล็บและเขี้ยวที่ยาวน่าเกลียดน่ากลัวของมัน และจุดเด่นของ อาคา-ชิตะ ก็คือลิ้นยาวๆสีแดงที่จะห้องและเคลื่อนไหวตลอดเวลา โดยมันจะใช้ลิ้นในการควานหาเหยื่อเพื่อจับกินเป็นอาหาร      สถานที่ ที่ผีลิ้นแดงมักปรากฏตัวก็คือ ประตูระบายน้ำในช่วงฤดูแล้ง โดยมันถือกำเนิดจากความแค้นของเหล่าชาวนาที่โดนโกงน้ำจากระบบชลประทานที่ควรได้รับเท่าเที่ยวกันในการทำเกษตร แต่กลับถูกโกงจากผู้มีอำนาจไว้ใช้ส่วนตัว จึงทำให้มีชาวนาหลายคนต้องอดตายและวิญญาณได้กลายมาเป็น  อาคา-ชิตะ เพื่อแก้แค้นพวกคนขี้โกงเหล่านั้น อีกทั้ง  อาคา-ชิตะยังถูกเล่าไว้อีกว่า เป็นปีศาจแห่งการแก้แค้น เพราะมันจะออกมาแก้แค้นพวกคนขี้โกงที่เคยโกงน้ำจากระบบชลประทานจนทำให้ชาวนาผู้อื่นต้องเดือดร้อน      โดยยังมีการเล่าขานต่อๆกันว่า หากผู้ใดที่มีนิสัยชอบโกงน้ำจากระบบชลประทานไปใช้เพียงผู้เดียว และหากวันใดที่ได้เข้าไปใกล้กับประตูระบายน้ำไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม คนขี้โกงคนนั้นก็จะถูก  อาคา-ชิตะหรือผีลิ้นแดงจับตัวไปเป็นอาหาร เพื่อเป็นการแก้แค้นและลงโทษ คนบาปเหล่านี้      เชื่อกันว่า การปรากฏตัวของ อาคา-ชิตะ อาจนำพามาซึ่งโชคร้าย แต่เหล่าชาวนาในอดีตจะนับถือ  อาคา-ชิตะ เพราะเป็นผู้ที่มาลงทัณฑ์พวกขี้โกงที่เห็นประโยชน์ส่วนตนดีกว่าส่วนรวม และ  อาคา-ชิตะ ยังเป็นปีศาจที่คอยบางน้ำไว้สำหรับใช้เพาะปลูกข้าวกับเหล่าชาวนาอย่างเท่าเที่ยวอีกด้วย ขอขอบคุณรูปภาพประกอบจาก Yokai-fandom.com อมรณา สารานุกรมแห่งความตาย  Amino […]

เจาะลึกตำนาน ฉบับสมบูรณ์ และบันทึกเกี่ยวกับการปรากฏตัวของ ลาโยโรน่า  EP.2

เจาะลึกตำนาน ฉบับสมบูรณ์ และบันทึกเกี่ยวกับการปรากฏตัวของ ลาโยโรน่า  EP.2

     ลาโยโรน่า คือวิญญาณที่เกิดขึ้นจากหญิงสาวที่สร้างบาปมหันต์จากการฆ่าลูกแท้ๆของตัวเองถึงสองคน แต่เรื่องนี้ยังไม่ใช่จุดจบ เพราะยังมีการปรากฏตัวของเธอออกมาให้พบเห็นบ่อยๆในทวีปอเมริกา โดยเชื่อว่า วิญญาณของ ลาโยโรน่า เธอกำลังออกมาตามหาลูกชายทั้งสองของเธอ เพื่อที่เธอจะได้รับการปลดปล่อยและเดินทางไปยังสรวงสวรรค์ได้ ตำนานฉบับสมบูรณ์ของ ลาโยโรน่า และการปรากฏตัวของเธอ     ลาโยโรน่า ได้สังหารลูกชายทั้งสองของตนโดยการโยนลงแม่น้ำ แต่ด้วยความสำนึกผิดจึงทำให้เธอนั้น รู้สึกเศร้าโสกเสียใจอย่างมาก ถึงขนาดที่เธอ ไม่กิน ไม่น้อย จนนานวันเข้า ทำให้ร่างกายที่สวยงามของเธอเริ่มซูบผอม จนมีสภาพไม่ต่างกับศพ และในทุกๆวันเธอจะสวมชุดสีขาวตัวโปรดออกตามหาลูกทั้งสองของเธอ จนกระทั่งเธอขาดใจตาย ณ ริมแม่น้ำ ที่เป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมนี้      หลังจากที่เธอได้ตายลงไป วิญญาณของ ลาโยโรน่า ได้มาปรากฏอยู่ที่ทางเข้าของสวรรค์ แต่ถูกเหล่าทูตขัดขวางและห้ามไม่ให้เธอเข้าไป เพราะมีบาปมหันต์จากการฆ่าลูกๆของตัวเอง แต่ก็ยังพอมีวิธีที่จะทำให้เธอสามารถไถ่บาปและอาศัยอยู่ในแดนสวรรค์ได้ นั่นก็คือ ลาโยโรน่า ต้องออกตามหาวิญญาณของลูกชายทั้งสองให้พบเท่านั้น      ลาโยโรน่า ได้ปรากฏตัวขึ้นในริมแม่น้ำหรือชายฝั่งในทวีปอเมริกา และมักจะออกลักพาตัวเด็กๆ เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นลูกๆของเธอแต่สุดท้ายหากเธอรู้ว่า เด็กที่ลักพาตัวมาไม่ใช่ลูกของเธอแล้ว เธอก็จะสังหารเด็กคนนั้นและออกตามหาเหยื่อรายต่อไป  การปรากฏตัวของลาโยโรน่า      มีหลายคนที่อ้างว่าเห็นร่างของเธอออกตามหาลูกๆพร้อมเสียงคร่ำครวญ ณ ริมทะเลสาบหรือชายฝั่ง โดยใช้มือทั้งสองตวัดหาไปทั่วริมทะเล      Patricio Lugan อ้างว่าพวกเขาพบเจอร่างของ ลาโยโรน่า บริเวณลำห้วย โมรา ประเทศเม็กซิโก […]

เจาะลึกตำนาน Feroz Shah Kotla วิหารแห่งการสถิตของเหล่าจินน์  

เจาะลึกตำนาน Feroz Shah Kotla วิหารแห่งการสถิตของเหล่าจินน์  

     วิหาร Feroz Shah Kotla เป็นวิหารที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเดลี ประเทศอินเดีย โดยถูกสร้างขึ้นในยุคโบราณและยังเคยถูกใช้เป็นป้อมปราการที่สำคัญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์อินเดีย จึงมีคุณค่าอย่างยิ่งในฐานะโบราณสถานที่สำคัญของโลกและถ้าพูดเรื่องตำนานความเชื่อ  Feroz Shah Kotla ก็เป็นวิหารที่เชื่อว่าเป็นสถานที่ที่สิงสถิตของสิ่งมีชีวิตลึกลับในตำนานของอินเดีย ที่เรียกกันว่า จินน์ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในความเชื่อของชาวอินเดีย   โดยวิหารแห่งนี้มีความสำคัญมากและยังได้รับการดูแลอย่างดีมาตลอด ตั้งแต่ปี1300เลยทีเดียว  ตำนานความเชื่อเกี่ยวกับ จินน์ และโบราณสถาน  Feroz Shah Kotla       จินน์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในความเชื่อของชาวอินเดีย จินน์ไม่ใช้ภูตผี เทวดา หรือปีศาจ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับที่มีชีวิตอยู่ระหว่างโลกมนุษย์และโลกขของความตาย อยู่ระหว่างโลกสีเทาที่ถูกแบ่งแยกโดยความดีและความชั่ว โดยพวกมันสามารถเข้ามาอยู่และสลับไปมาระหว่างโลกมนุษย์ได้ โดยมันสามารถจำแลงตัวเองให้อยู่ในรูปมนุษย์หรือสัตว์ก็ได้  หากใครที่นึกภาพตามไม่ออกก็คือ จินน์ที่อยู่ในตะเกียงวิเศษจากการ์ตูนเรื่อง อาละดิน นั่นแหละ และสถานที่ที่เชื่อว่า จินน์จะมาสถิตอยู่มากที่สุดก็คือ  Feroz Shah Kotla วิหารที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเดลีนั่นเอง        Feroz Shah Kotla  จะมีคนเดินทางมาเคารพจินน์มากที่สุดในวันพฤหัสบดีเพราะเชื่อว่าจินน์จะมาปรากฏตัวให้เห็นและส่วนใหญ่ที่มาที่วิหารแห่งนี้ก็เพราะว่า สามารถมาขอความช่วยเหลือจากจินน์ได้นั่นเอง และหากอยากให้จินน์ตอบรับคำขอก็สามารถเตรียมของเซ่นไหว้ให้กับจินน์ได้ เช่น นม ขนม ธัญพืชและธูปเทียน โดยเชื่อว่าจะทำให้จินน์พึงพอใจและตอบรับคำขอได้ โดยจะเขียนเรื่องราวปัญหาของตัวเองผ่านทางจดหมายว่าอยากจะให้ช่วยเหลือในด้านใดบ้าง ซึ่งการกระทำแบบนี้ก็มีการสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นจนเปรียบเสมือนประเพณีที่ชาวอินเดียปฏิบัติสืบทอดกันหลายชั่วอายุคน  […]

เจาะลึกตำนาน 3ซามูไรหัวผีที่ล่องลอยอยู่บนนภา ไมคุบิ (Maikubi Yokai ) 

เจาะลึกตำนาน 3ซามูไรหัวผีที่ล่องลอยอยู่บนนภา ไมคุบิ (Maikubi Yokai ) 

     ไมคุบิ เป็นตำนานประเภทนิทานของชาวโมโมยามะ  โดยมีการกล่าวถึงนิทานเรื่องนี้ตั้งแต่สมัย เมื่อค.ศ.1200 ซึ่งนับว่าเป็นนิทานที่มีอายุยาวพอสมควร  จุดเริ่มต้นของนิทานเรื่อง วิญญาณสามหัวผู้จองเวร ไมคุบิ ( Maikubi Yokai )       ไมคุบิ เป็นนิทานของชาวโมโมยามะตั้งแต่ ค.ศ.1200 โดยนิทานได้เล่าถึงซามูไรสามคนที่นิสัยไม่ดีและมีจุดจบที่สุดจะคิดได้ โดยเนื้อหาของ ไมคุบิ มีอยู่ว่า      ในประเทศญี่ปุ่นสมัยโบราณ ได้มีนักรบซามูไร3คน นามว่า โคชันตะ มาตะชิเกะ และอาคุโกโร ทั้ง3เป็นซามูไรที่มีนิสัยเป็นดั่งอันธพาลและพวกนิสัยเลว ที่ชอบสร้างความรำคาญและไม่สบายใจให้แก่ชาวบ้านชาวช่อง ไม่ว่าจะเป็น การหาเรื่องต่อยตีกับซามูไรหรือชาวบ้าน ขโมยอาหารหรือข้าวของเครื่องใช้ของชาวบ้าน หรือการใช้กำลังข่มเหงผู้อื่น แต่ก็มีบ่อยครั้งที่ซามูไรทั้ง3คน มักจะมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้งจนแทบจะลงดาบฆ่ากันตายไปข้างให้ได้       อยู่มาวันหนึ่ง ซามูไรทั้ง3 ได้ทะเลาะกันขั้นรุนแรงจนมีปากเสียงกันค่อนข้างนาน ทั้ง3จึงตัดสินใจไปเคลียกันที่ริมทะเล แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้เสียที ด้วยความที่ทั้งสามเป็นซามูไรอีกทั้งยังมีนิสัยที่แย่และอันธพาล จึงมีการชักดาบกันเกิดขึ้น และในที่สุด ทั้ง โคชันตะ มาตะชิเกะ และอาคุโกโร ก็ใช้ดาบของตัวเองฟันคอกันและกัน จนหัวขาดทั้งสามคน       แต่ถึงร่างกายของซามูไรทั้งสามจะตายไป แต่ดวงวิญญาณของทั้งสามยังคงโผล่ออกมาและยังค่อยกล่าวหาและตำหนิกันเรื่อยมา โดยตามนิทานเล่าว่า ซามูไรทั้งสามหลังจากที่ตายไป พวกเขาได้กลายเป็นวิญญาณที่มีเพียงแค่ส่วนหัว และยังลอยป้วนเปี้ยนอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน และสบถถ้อยคำด่าประชดประชันกันเองมากมายสารพัด และเชื่อว่าหากผ็ใดที่พบเห็น […]

3สุดยอด เครื่องรางช่วยเสริมด้านการค้าขาย ลูกค้าเข้าร้านไม่ขาดสาย

3สุดยอด เครื่องรางช่วยเสริมด้านการค้าขาย ลูกค้าเข้าร้านไม่ขาดสาย

ตะกรุดมหาลาภราหูค้นทรัพย์ เครื่องรางช่วยเสริมด้านการค้าขาย วิชาราหูค้นทรัพย์จัดทำเป็นตะกรุดมหาลาภราหูค้นทรัพย์ นี้ท่านว่า เป็นอุปเทห์ในการบูชาพระราหูเพื่อค้นทรัพย์จากที่อื่นมาเป็นของเราใช้ เลี่ยมติดตัว เลี่ยมห้อยคอ เลี่ยมเหน็บติดกระเป๋าเสื้อเลี่ยมติดกระเป๋าสตางค์ เป็นการแก้เคล็ดในการใช้พระราหูค้นทรัพย์จากกระเป๋าคนอื่นค้นมาหาเรา ค้าขายได้กำไรงาม ขอความเมตตาจากคนอื่นเขาเมตตา ยินดีช่วยเหลือ มีคนอุปถัมภ์ค้ำชู ดอกจิ๋วแต่แจ๋ว เป็นตะกรุดสายมหาลาภ มหาลาโภ เครื่องรางช่วยเสริมด้านการค้าขาย โชคลาภเสี่ยงดวงดี หรือพกติดตัวไปทำมาค้าขาย สอบแข่งขัน การสอบ การสัมภาษณ์งาน ดำเนินธุรกิจการงานเจริญรุ่งเรือง คุ้มครอง กลับร้ายกลายเป็นดี คนเมตตา ท่านปลุกเสก ตะกรุดมหาลาภราหูค้นทรัพย์ ยาวนานผ่านพิธี สุริยคราส จันทรคราสมาแล้วถึงสามปีอุดผงราหูอมจันทร์ ผงราหูรับทรัพย์ จึงได้เวลาอันสมควรเปิดให้บูชากัน เครื่องรางช่วยเสริมด้านการค้าขาย ตะกรุดจับเงินล้าน ตะกรุดจับเงินล้าน เปิดดวงชะตา เปิดรับเงินล้านร่ำรวยเงินทอง เครื่องรางช่วยเสริมด้านการค้าขาย  หลวงปู่ลอง ท่านมีบารมีเหลือล้น บริวารหนุนนำ โชคดีวิ่งเข้าหาได้จับเงินล้าน เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี มหาเศรษฐี ด้วยวิชามหาเศรษฐี วิชามหาลาภเร่งทรัพย์ เป็นตะกรุดหนุนดวง เสริมดวงชะตาการเงิน การทอง เปิดดวงให้มีลาภไหลเข้ามาไม่ขาดสาย  บูชาเลยไม่มีข้อห้าม บูชาแล้วเสริมดวงดี มีลาภเข้ามาไม่ขาดสาย […]

3 อันดับ ของมงคลตามความเชื่อคนจีน ที่ส่งต่อมาถึงคนไทย

3 อันดับ ของมงคลตามความเชื่อคนจีน ที่ส่งต่อมาถึงคนไทย

ฮก  ลก  ซิ่ว  ความมงคลทั้ง 3 ประการ ของมงคลตามความเชื่อคนจีน  ความโชคดี จาก ฮก  ลก  ซิ่ว   ท่าน “เจี่ยวช้ง” ของมงคลตามความเชื่อคนจีน เป็นพ่อค้า มหาเศรษฐี ในสมัยราชวงศ์ถัง ที่ร่ำรวยจากการค้าขายที่สุจริต และ คนในครอบครัว ลูกหลาน ล้วนแล้วแต่เป็นคนดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใด มีเรื่องเล่าขานกันว่า บ้านพักของท่านเจี่ยวช้งนั้น ห่างจากพระราชวังถึง 20 ลี้ เพียงท่านก้าวพ้นจากเขตที่ดินของท่าน ก็เป็นเขตพระราชวัง ด้วยความที่ท่านมีทรัพย์สมบัติมาก กอปรกับท่านเป็นใจบุญ ให้ความช่วยเหลือกับทุกคนที่ทุกข์ยาก จนเป็นที่นับถือของชาวบ้าน และสร้างคุณความดีต่อแผ่นดินอย่างใหญ่หลวง จนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากฮ่องเต้ในสมัยนั้น ใน มือถือ เล่งจื้อ ซึ่งเป็นสมุนไพรที่หายากมากที่สุด ยันต์โป๊ยก่วย ของมงคลตามความเชื่อคนจีน แปดเหลี่ยม คือแปดทิศ มีเส้นขีดทิศละสามแถว เป็นของมงคลตามความเชื่อคนจีน ในทิศตรงกันข้าม จะกลับกัน แต่ละทิศเส้นที่เขียนไว้ทิศละ 3 แถวนั้น จะมีเส้นขาดกลางบ้าง เต็มบ้างสลับกันไป […]

3 สุดยอดวัตถุมงคล จากหลวงพ่อพูล และหลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม

3 สุดยอดวัตถุมงคล จากหลวงพ่อพูล และหลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม

หนุมานวายุบุตร วัดไผ่ล้อม สุดยอดวัตถุมงคลจาก พระเดชพระคุณ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ท่านรังสรรค์มงคลวัตถุ หนุมานวายุบุตร รุ่นแรก เมื่อปีพ.ศ.2513 ได้รับความนิยมสูงสุดคือ กริ่งหนุมาน และ ปีพ.ศ.2537 เหรียญหนุมานเชิญธง ส่งผลให้เกิดประสบการณ์ คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยมสูงยิ่ง ปีพ.ศ.2543 ท่านสร้าง หนุมานเชิญธง กริ่งหนุมาน เนื้อ ทองคำ เงิน สัมฤทธิ์ และเนื้อผง พระพักตร์พระพุทธเมตตา วัดไผ่ล้อม พระพักตร์พระพุทธเมตตา ถือเป็นวัตถุมงคลอีกชิ้น จากวัดไผ่ล้อม ที่ได้รับความนิยม และที่สำคัญการออกแบบยังดูมีความทันสมัยอีกด้วย ลวดลายของงาน และการตกแต่งเป็นที่ถูกอกถูกใจ บรรดานักสะสมเครื่องราง วัตถุมงคลหลาย ๆ คนเลย นอกจากนี้ในเรื่องของพุทธคุณที่เด่นในด้านของเมตตามหานิยม ที่เป็นที่เลื่องลือกันมาก ว่าเมื่อผู้ใดได้บูชา พระพักตร์พระพุทธเมตตา นอกจากจะได้ร่วมสร้างบุญกับทางวัดผ่าล้อมแล้ว ยังได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ ในหน้าที่การงาน ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด ก็จะมีผู้ใหญ่ หรือผู้มีอำนาจ ยื่นมอเข้ามาให้การช่วยเหลือ อุ้มชูอยู่เป็นเนื่อง ๆ  […]

ของตกแต่งร้าน เรียกเงิน ต้นไหลน้ำพี้ เรียกทรัพย์

ของตกแต่งร้าน เรียกเงิน ต้นไหลน้ำพี้ เรียกทรัพย์

ต้นไหลน้ำพี้ ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับเหล็กไหล พบและหาได้เฉพาะ บ้านน้ำพี้  ตำบลน้ำพี้  จังหวัดอุตรดิตถ์ ไหลน้ำพี้มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเพียงตั้งจิตอธิฐานภาวนาถึงสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเหลือให้บังเกิดความสำเร็จ ต้นไหลน้ำพี้ วัตถุมงคลสำหรับเพื่อบูชา อิทธิฤทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์ของต้นไหลน้ำพี้ มีคุณวิเศษ  ถ้าอยากรู้ก็ต้องหามาสักการะบูชา เมื่อได้ ต้นไหลน้ำพี้ มาแล้วก็ตั้งจิตอฐิษฐานให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในชีวิตและคุ้มครอง ปกป้องรักษา  ตั้งอยู่ในศีล หมั่นปฏิบัติธรรมและศรัทธาอย่างแรงกล้า ประกอบไปด้วยปัญญาในการศึกษา นี่คือปัญญาบารมีสะสมจะนำมาซึ่งความสำเร็จ ต้นไหลดำและไหลเขียวหรือต้นไหลน้ำพี้ เป็นก้อนแร่ศักดิ์สิทธิ์ มีอายุมากกว่า 1,000 ล้านปี ชาวบ้านน้ำพี้ได้นำหินมาผ่านกระบวนการความร้อนประมาณ 1,000 องศาขึ้นไปจนกลายเป็นหยดน้ำรวมตัวกันเป็นก้อนหรือผลึก เมื่อแข็งตัวจะมีสีดำหรือสีเขียวมีความมันวาว  ซึ่งหินนี้ประกอบไปด้วยแร่ควอทซ์หรือซิลิก้า เซอร์เพนทีนและแร่เหล็ก  ซึ่งแร่นี้เป็นแร่ที่หาพบได้ยากมากในโลกนี้ จะมีเฉพาะที่จังหวัดอุตรดิตถ์และเขตติดต่อกับจังหวัดน่าน   อยู่ใต้พื้นผิวโลกมากกว่า 100 กิโลเมตร มีอายุหลายร้อยล้านปี ต้นไหลน้ำพี้ นี้ก่อนจะเผาให้เป็นหยดได้ขอขมาและทำพิธีก่อนเผา  เป็นไหลตามธรรมชาติที่ได้จากหิน ไม่ผสมสารใด ๆ ซึ่งเรียกว่าสารควอทซ์ และเซอร์เพนทีน  เนื่องจากเป็นธาตุเดียวกับที่นำไปเป็นส่วนผสมแก้วหรือกระจกทั่วไป ความเชื่อและอิทธิฤทธิ์เกี่ยวกับไหลน้ำพี้ ต้นไม้มงคล ที่เป็นสิริมงคลแก่ผู้ครอบครอง ต้องยกให้ ต้นไหลน้ำพี้ เป็นทั้งของมงคล ของแต่งบ้าน แต่งร้าน […]

เจาะลึกตำนาน พิพิธภัณฑ์สงครามผีดุ ปีนัง แห่งมาเลเซีย ( Penang War Museum )

เจาะลึกตำนาน พิพิธภัณฑ์สงครามผีดุ ปีนัง แห่งมาเลเซีย ( Penang War Museum )

     พิพิธภัณฑ์สงครามผีดุ ปีนัง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย เป็นพิพิธภัณฑ์สงครามที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีพื้นที่ถึง 50 ไร่ ตั้งอยู่ที่ Teluk kumbar ชายฝั่งตอนใต้ของเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะจัดแสดงสิ่งของสำคัญในยุคสงครามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปืนใหญ่ บังเกอร์ และอุโมงค์ที่ใช้ในการทหาร โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-19.00   เหตุใด พิพิธภัณฑ์สงคราม ปีนัง จึงเป็นสถานที่ผีดุ      พิพิธภัณฑ์สงครามผีดุ ปีนัง เชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ผีสิงมากที่สุดในเอเชียเพราะอดีตป้อมปราการของอังกฤษที่ถูกสร้างในปี1941 ซึ่งตั้งอยู่ในที่แห่งนี้ก็เคยใช้ป้องกันกองกำลังจากญี่ปุ่นทางทะเลแต่สุดท้ายก็ถูกกองทัพญี่ปุ่นตีแตกไปได้ในที่สุด หลังจากนั้นป้อมปราการแห่งนี้ก็ถูกญี่ปุ่นยึดครองและใช้เป็นสถานที่จองจำนักโทษในสมัยสงครามโลกครั้งที่2  จนกระทั่งญี่ปุ่นสามารถยึดครองแหลมมลายูได้สำเร็จ ทำให้ป้อมปราการแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ทรมานเหล่านักโทษในสงครามนั่นเอง โดยทางกองทัพญี่ปุ่นได้ออกมายอมรับด้วยตัวเองว่ามีผู้เสียชีวิตในการยึดครองแหลมมลายู มากกว่า5000คน โดยอาจจะมากกว่านี้เป็นเท่าตัวด้วยซ้ำ โดยส่วนใหญ่คนที่ตายในสงครามครั้งนั้นจะเป็นคนที่มีเชื้อสายจีนและทหารญี่ปุ่นนั่นเอง       หลังจากที่ญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามโดยการยกธงขาว ก็เริ่มทำให้มีการถอดถอนกองกำลังออกไปจากป้อมปราการแห่งนี้จนกลายเป็นสถานที่รกร้างในที่สุดจนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ในภายหลัง และจากนี้ก็จะมีผู้พบเห็นวิญญาณมากมายในสถานที่แห่งนี้จนขนานนามให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ว่า พิพิธภัณฑ์สงครามผีดุ ปีนัง โดยยกตัวอย่างเช่น มีผู้เห็นวิญญาณของทหารที่ทำหน้าที่เป็นเพชรฆาตในอุโมงค์ และบริเวณที่เป็นตะแกรงเผาศพ โดยคนที่พบเจอและได้ศึกษประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้มาอย่างถี่ถ้วนจะคาดการว่า เป็นวิญญาณของ ทาดาชิ ซูซุกิ ซึ่งเป็นทหารที่คลั่งไคล้และเสพติดการสังหารเชลยศึก โดยทุกครั้งที่นายทหารคนี้ใช้ดาบตัดหัวของนักโทษและเชลยสงคราม เขามักจะนำดาบจุ่มลงไปในขวดวิสกี้และหยิบขวดวิสกี้มาดื่ม      และหุบเขาที่อยู่ใกล้กับ พิพิธภัณฑ์สงครามผีดุ ปีนัง ยังถูกเรียกว่าหุบเขาผีเพราะมีการใช้เป็นลานประหารในการตัดหัวของเชลยศึกจำนวนมากกว่าร้อยชีวิต ทำให้มีวิญญาณของทั้งทหารญี่ปุ่นหรือเชลยศึกที่ตายในสมัยสงครามนั้น […]

เจาะลึกตำนาน บ้านแห่งฆาตกรผู้ใช้ขวานจอมโหดแห่งไอโบวา อเมริกา ( Villisca Axe )

เจาะลึกตำนาน บ้านแห่งฆาตกรผู้ใช้ขวานจอมโหดแห่งไอโบวา อเมริกา ( Villisca Axe )

Villisca Axe  เป็นชื่อของบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมือง Villisca รัฐไอโบวา สหรัฐอเมริกา ที่ได้ชื่อว่า Villisca Axe ก็เพราะว่าบ้านหลังเป็นบ้านที่ครอบครัวที่เป็นเจ้าของถูกสังหารหมู่โดยฆาตกรปริศนา ซึ่งอาวุธที่ฆาตกรใช้ก็คือขวานตามชื่อของบ้านเลย  Villisca Axe ตำนานบ้าน8ศพสยองแห่งไบโอวา       เรื่องราวสยองขวัญของ Villisca Axe เริ่มขึ้นในวันที่ 10มิถุนายน1912 ครอบครัวตระกูลมัวร์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่รวมถึงเพื่อนๆของเด็กที่เป็นลูกของเจ้าของบ้านหลังนี้นวมทั้งสิ้น8คน ได้ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมทั้งหมด โดยสาเหตุการตายของทุกคนนั้นเกิดจากการโดนฟาดกระหน่ำไปที่ร่างกายด้วยขวานและสันขวาน จนศพมีแผลเวอะหวะทั่วร่าง โดยเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดภายในคืนเดียวเท่านั้น       จากการสันนิษฐานคดีของตำรวจคาดว่า ฆาตกรอาจจะแอบซุ่มอยู่บนหลังคาของบ้านจนกระทั่งทุกคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหลับจนหมด จนฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ และในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถสืบหาตัวคนร้ายได้เลยว่าเป็นใครแล้วลงมือสร้างคดีนี้ด้วยสาเหตุอันใด  Villisca Axe  ถูกยกย่องให้เป็นบ้านผีสิงที่สุดในอเมริกา โดยVillisca Axe  เปิดให้เข้าพักเพื่อให้เหล่าบรดาแฟนตัวยงเรื่องสยองขวัญได้เข้าไปซึมซับประสบการณ์ขนหัวลุกได้ตลอดทั้งคืน โดยมีค่าเช่าอยู่ที่ 400ดอลล่า/คืน   ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาเช่าและลองอาศัยอยู่ในบ้าน Villisca Axe โดยแขกแต่ละรายที่เข้ามาเช่าอยู่เพื่อหวังจะได้เจอดีนั้น ก็ได้เจอดีสมปรารถนากันทุกรายม่ว่าจะเป็น โคมไฟที่หล่นลงมาจากเพดานโดยไม่ทราบสาเหตุ ได้ยินเสียงเด็กหัวเราะและร้องไห้ สิ่งของในบ้านลอยขึ้นมาได้เองและที่หนักที่สุดคือ ในปี2014 มีแขกที่เข้าพักที่ Villisca Axe ซึ่งเขาเป็นนักล่าท้าผีเข้าขั้นเป็นแฟนตัวยงเลยก็ว่าได้ โดยเขาได้เข้ามาพักที่ Villisca Axe […]