เจาะลึกตำนาน บ้านแห่งฆาตกรผู้ใช้ขวานจอมโหดแห่งไอโบวา อเมริกา ( Villisca Axe )

Villisca Axe เป็นชื่อของบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมือง Villisca รัฐไอโบวา สหรัฐอเมริกา ที่ได้ชื่อว่า Villisca Axe ก็เพราะว่าบ้านหลังเป็นบ้านที่ครอบครัวที่เป็นเจ้าของถูกสังหารหมู่โดยฆาตกรปริศนา ซึ่งอาวุธที่ฆาตกรใช้ก็คือขวานตามชื่อของบ้านเลย Villisca Axe ตำนานบ้าน8ศพสยองแห่งไบโอวา เรื่องราวสยองขวัญของ Villisca Axe เริ่มขึ้นในวันที่ 10มิถุนายน1912 ครอบครัวตระกูลมัวร์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่รวมถึงเพื่อนๆของเด็กที่เป็นลูกของเจ้าของบ้านหลังนี้นวมทั้งสิ้น8คน ได้ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมทั้งหมด โดยสาเหตุการตายของทุกคนนั้นเกิดจากการโดนฟาดกระหน่ำไปที่ร่างกายด้วยขวานและสันขวาน จนศพมีแผลเวอะหวะทั่วร่าง โดยเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดภายในคืนเดียวเท่านั้น จากการสันนิษฐานคดีของตำรวจคาดว่า ฆาตกรอาจจะแอบซุ่มอยู่บนหลังคาของบ้านจนกระทั่งทุกคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหลับจนหมด จนฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ และในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถสืบหาตัวคนร้ายได้เลยว่าเป็นใครแล้วลงมือสร้างคดีนี้ด้วยสาเหตุอันใด Villisca Axe ถูกยกย่องให้เป็นบ้านผีสิงที่สุดในอเมริกา โดยVillisca Axe เปิดให้เข้าพักเพื่อให้เหล่าบรดาแฟนตัวยงเรื่องสยองขวัญได้เข้าไปซึมซับประสบการณ์ขนหัวลุกได้ตลอดทั้งคืน โดยมีค่าเช่าอยู่ที่ 400ดอลล่า/คืน ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาเช่าและลองอาศัยอยู่ในบ้าน Villisca Axe โดยแขกแต่ละรายที่เข้ามาเช่าอยู่เพื่อหวังจะได้เจอดีนั้น ก็ได้เจอดีสมปรารถนากันทุกรายม่ว่าจะเป็น โคมไฟที่หล่นลงมาจากเพดานโดยไม่ทราบสาเหตุ ได้ยินเสียงเด็กหัวเราะและร้องไห้ สิ่งของในบ้านลอยขึ้นมาได้เองและที่หนักที่สุดคือ ในปี2014 มีแขกที่เข้าพักที่ Villisca Axe ซึ่งเขาเป็นนักล่าท้าผีเข้าขั้นเป็นแฟนตัวยงเลยก็ว่าได้ โดยเขาได้เข้ามาพักที่ Villisca Axe […]
หมู่บ้านสยองสุดน่าสงสาร ที่รัฐบาลเคยทุ่มงบเพื่อสร้างขึ้น เลทวอร์ท ( Letch worth Village )

หมู่บ้านร้างในโลกใบนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งในแต่ละที่ก็มีความน่ากลัวเข้าขั้นไม่น้อยเลย โดยส่วนใหญ่เราจะเห็นพวกนักล่าท้าผีหรือพวกยูทูปเบอร์ไปถ่ายคอนเทนท์เกี่ยวกับเรื่องลี้ลับในหมู่บ้านร้างกันมากมายและมักจะเจอดีกันแทบทุกรายเช่นกัน และในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่งในรัฐนิวยอร์ค โดยเชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเยียวยาจิตใจแต่กลับต้องมีความสยองเป็นจุดจบ ชื่อของมันคือ หมู่บ้านเลทวอร์ท หมู่บ้านเลทวอร์ท จากหมู่บ้านที่ถูกสร้างเพื่อบำบัดและเยียวยาผู้ป่วยสู่หมู่บ้านร้างสุดหลอน…. ก่อนจะไปเล่าถึงความน่าสะพรึงของสถานที่แห่งนี้เรามารู้จักกับประวัติของที่แห่งนี้ก่อนดีกว่า โดย หมู่บ้านเลทวอร์ท ถูกสร้างโดยใช้งบจากรัฐบาลโดยใช้งบมหาศาลและพื้นที่กว่า 2365เอเคอร์ เพื่อหวังว่าจะให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นดังสถานที่เยียวยาจิตใจคนที่มีร่างกายไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่และหวังว่าจะให้พวกเขาอาศัยอยู่ใน หมู่บ้านเลทวอร์ท อย่างมีความสุข แต่เมื่อสร้าง หมู่บ้านเลทวอร์ท เสร็จสิ้นเรียบร้อยจนดำเนินไปได้สักระยะหนึ่ง ทุกอย่างก็กลับกลายเป็นตรงกันข้าม เพราะตอนแรกทางรัฐบาลหวังว่าจะสร้างเพื่อเยียวยาจิตใจแต่ที่แห่งนี้กลับใช้เป็นสถานที่ทรมานผู้ป่วยอย่างไร้มนุษยธรรม เช่น การไม่แจกจ่ายเสื้อผาให้เพียงพอกับผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่แจกจ่ายอาหารกันให้เพียงพอและทั่วถึงแกผู้ป่วย การกำจัดสิ่งสกปรกปฏิกูลที่ไม่ถูกสุขลักษณะและทำให้สภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเลทวอร์ท ต้องย่ำแย่ และภายหลังหมู่บ้านแห่งนี้ต้องเป็นสถานที่แรกในการลองวัคซีนโปลิโอให้กับเด็กเล็กอีกด้วย เนื่องด้วยการกระทำที่ต่ำตมและน่ากลัวเช่นนี้ส่งผลให้ หมู่บ้านเลทวอร์ท ต้องกลายเป็นหมู่บ้านร้างไปในที่สุดและหลังจากที่หมู่บ้านแห่งนี้ร้างไปแล้วก็ขึ้นชื่อเรื่องเป็นหมู่บ้านผีสิงที่มีผีดุมากๆ เพราะใครที่เข้ามาในสถานที่แห่งนี้ก็จะได้พบกับวิญญาณของผู้ป่วยที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ออกมาขอความช่วยเหลือจากผู้ที่พบเห็น หรือการได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนที่แสนจะน่าสงสาร จึงทำให้ หมู่บ้านเลทวอร์ท กลายเป็นหมู่บ้านผีสิงที่น่ากลัวเป็นอันดับต้นๆของหมู่บ้านผีสิงในโลก […]
อิจิจามะ พิธีสาปแช่งคนที่เกลียดให้ทรมานปางตาย โดยใช้ตุ๊กตาและวิญญาณเป็นเครื่องมือ

อิจิจามะ เป็นพิธีกรรมที่เรียกได้ว่าเป็นการทำให้คนที่เราเกลียด ต้องโดนวิญญาณสิงหรือเรียกง่ายๆว่าผีเข้านั่นเอง และคนที่เราเกลียดจะต้องทนทุกข์ทรมานจะถึงขั้นปางตายเลยก็ได้ โดยพิธีกรรมสาปแช่ง อิจิจามะ จะเป็นพิธีกรรมสาปแช่งตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น โดยใช้ตุ๊กตาเป็นเครื่องมือ ซึ่งคล้ายกับ ตุ๊กตาสาปแช่ง ที่เรียกกันว่า ตุ๊กตาวูดู อีกด้วย วิธีการและขั้นตอนในการทำพิธีสาปแช่ง อิจิจามะ อิจิจามะแปลได้ว่า วิญญาณของสิ่งมีชีวิตในภาษาโอกินาวา โดยจะทำให้เหยื่อที่เราเกลียดนักหนา โดนผีเข้าจนต้องทนทุกข์ทรมาน เช่น ใส่ตุ๊กตาที่เรียกว่าอิจิจามะบูโตกิ ลงไปในหม้อต้มแล้วท่องคาถา อาตามะ อาตามะ อาตามะ ( ท่องคำว่า อาตามะ สามครั้ง ) แล้วนึกถึงภาพหรือใบหน้าของคนที่เราเกลียด จะทำให้คนๆนั้นรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรงขึ้นมาอย่างกะทันหัน วิญญาณที่เข้าสิงคนหรือทำให้คนปวดหัวนั้นแหละ คือวิญญาณที่เรียกกันว่า อิจิจามะ แต่ในบางพื้นที่ก็เล่าว่า ไม่จำเป็นต้องใช้เวทย์มนต์หรือตุ๊กตาเพื่อให้ อิจิจามะ ไปเล่นงานเหยื่อก็ได้ เพราะเราแค่นึกถึงหน้าคนที่เราเกลียดมากๆ แล้วพูดในใจว่า […]
สุสานแทนตน ‘สุสานคนเป็น’

‘สุสานคนเป็น’ เรียกได้ว่าเป็น ‘Trick’ เสริมดวงของชาวจีนที่มีมาแต่โบราณกาล นิยมมากในหมู่เจ้าสัว เฒ่าแก่ ข้าราชการชั้นสูง ขุนนาง ผู้ที่ร่ำรวยจากการค้า การเมือง และรวมไปถึงเหล่าราชวงศ์ด้วย ยิ่งผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ครองแผ่นดินอย่างองค์ฮ่องเต้แล้ว ก็ยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ ‘Trick’ นี้แบบลับๆ เพื่อความรุ่งเรืองของราชวงศ์และบัลลังก์ของตนเอง มนุษย์เป็นส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ การทำสุสานคนเป็น มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเกินไปนักสำหรับผู้ที่มีฐานะร่ำรวยหรือมีศักดินาสูงๆ แต่ก็หาใช่ว่าจะไม่ซับซ้อน ทั้งนี้ ผู้ที่จะสามารถดำเนินการเรื่องการทำสุสานคนเป็นได้นั้น จะต้องเป็น “ซินแส” ผู้มีความรู้พร้อมสรรพ ทั้งในเรื่องของโหราศาสตร์จีน การผูกดวงจีน ฮวงจุ้ย และศาสตร์อื่นๆด้านสิ่งลี้ลับและกฎของธรรมชาติตาแบบความเชื่อของจีนซึ่งมีรากเหง้ามาจากปรัชญาของขงจื้อ ปราชญ์ผู้เป็นต้นกำเนิดศาสตร์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งยึดถือแนวคิดที่ว่า “มนุษย์เป็นส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่” การสร้างสุสานคนเป็นนั้นก็เพื่อเสริมดวง จากหน้ามือเป็นหลังมือ โดยจุดประสงค์หลักของการสร้างสุสานคนเป็นนั้นก็เพื่อเสริมดวง ให้มีความเจริญรุ่งเรืองแบบชนิดที่ว่า จากหน้ามือเป็นหลังมือ เช่น ใครที่ทำการค้าขายอยู่แล้วรู้สึกว่าการค้าซบเซา ก็อยากจะปรับดวงให้ขายดี มีคนนิยมชมชอบ รับทรัพย์ต่อเนื่อง อะไรทำนองนี้ ส่วนใครที่มียศมีตำแหน่ง ที่เรียกได้ว่าพรั่งพร้อมทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ ก็ย่อมต้องมีความทะเยอทะยาน อยากให้ตนเองมีโอกาสในการไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งที่สูงกว่าเดิมได้ ซึ่งว่ากันว่าการทำสุสานคนเป็นนั้น เป็นการเสริมดวงที่ได้ผลที่สุด แบบที่การแก้ด้วยหลักฮวงจุ้ยแบบธรรมดานั้นเทียบไม่ติดเลยทีเดียว เงื่อนไขอันตราย ‘สุสานคนเป็น’ ก็มีผลในทางร้ายเช่นกัน แต่กระนั้น ‘สุสานคนเป็น’ […]
เจาะลึกตำนาน เด็กปีศาจแห่งถ้ำฮะจิโจ เทนจิ ( Tenji )

ตำนานของ เทนจิ เป็นตำนานที่เล่าต่อๆมา โดยเชื่อว่ามันเป็นปีศาจที่มีรูปร่างคล้ายกับเด็กอายุ14-15 และเป็นปีศาจที่อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวในถ้ำที่เกาะฮะจิโจ และด้วยความที่เป็นเด็กและต้องอาศัยอยู่โดดเดียว เทนจิ จึงมักลักพาตัวเด็กๆมาอาศัยอยู่ในถ้ำกับมัน เพื่อคอยเป็นเพื่อนเล่นโดย เทนจิ จะดูแลอย่างดีในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป้นการหาน้ำ หาอาหารมาให้ แต่จะลักพาตัวมาได้แค่6วันเท่านั้น พอครบวันที่7 เด็กคนที่ถูกลักพาตัวก็จะถูกพบตัวและได้รับความเชื่อเหลือจากชาวบ้าน นอกจากเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ยังเคยมีตำนานที่เล่าถึงการพบเจอกับ เทนจิ ของชายวัยกลางคนที่อาศัยอยู่ในกระท่อมบนกลางภูเขาอีกด้วย เรื่องเล่าของการปรากฏตัวของ เด็กปีศาจ เทนจิ ของพรานผู้อาศัยอยู่บนภูเขา พรานวัยกลางคนผู้หนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่อย่างสันโดษบนกระท่อมกลางภูเขา เขามักจะโดนกลั่นแกล้งจากสิ่งเหนือธรรมชาติ ซึ่งก็คือวิญญาณของเด็กที่เรียกกันว่า เทนจิ โดยแทบจะทุกๆคืนพรานผู้นี้มักจะถูก เทนจิ หยอกแกล้งด้วยวิธีต่างๆสารพัด ไม่ว่าจะเป็น หยิกหู หยิกแขน หยิกแขน ดึงขนที่ลำตัวบ้าง ส่งเสียงหัวเราะดังน่ารำคาญบ้าง โดยมีหลายครั้งเหมือนกันที่พรานผู้นี้รู้สุกหงุดหงิดและโมโหมากจนตะโกนด่า เทนจิ ไปว่า “น่ารำคาญว่ะ ไอ้เด็กผีนี่ คนเขาจะหลับจะนอน จะหลอกจะแกล้งอะไรก็ให้รู้จักมายราทรู้เวลาด้วยเถอะ” และเมื่อสิ้นเสียงของพรานผู้นี้เทนจิ ก็ส่งเสียงหัวเราะดังแหลมปี๊ดด และเลือนหายไปในความมืด มีอยู่ปีหนึ่ง เป็นปีที่มีความแห้งแล้ง สัตว์จำนวนไม่น้อยที่อาศัยอยู่บนภูเขาต้องล้มตาย พืชและต้นไม้บางส่วนของภูเขาก็พากันตายไป และด้วยความที่แห้งแล้งก็ไม่สามารถปลูกอะไรทำกินได้ พรานป่าต้องใช้ชีวิตอย่างอดๆอยากๆ ด้วยสภาวะแห้งแล้ง […]
เจฟ เดอะ คิลเลอร์ ฆาตกรโรคจิตหน้าขาว แห่งจักรวาลครีปปี้พาสต้า EP.1

เจฟ เดอะ คิลเลอร์ เป็นเรื่องราวสยองขวัญออนไลน์ หรือรู้จักกันในชื่อครีปปี้พาสต้า ซึ่งเรื่องราวของ เจฟ เดอะ คิลเลอร์ ถือได้ว่าเป็นครีปปี้พาสต้าที่โด่งดังเป็นอันดับต้นบนโลกออนไลน์เลยก็ว่าได้ เรื่องราวของ ฆาตกรโรคจิต เจฟ เดอะ คิลเลอร์ ได้เวลานอนแล้ว (EP.1) เจฟ และครอบครัวของเขา ได้ย้ายมาอาศัยที่บ้านใหม่ เพราะพ่อของเขาพึ่งจะได้งานใหม่ จึงต้องย้ายมาอาศัยตามพ่อ ซึ่งเจฟและลูว์ น้องชายของเขาชอบบ้านหลังใหม่นี้มาก ทันใดนั้น บาบาร์ร่า เพื่อนบ้านใหม่ของพวกเขาก็เดินเข้ามา และกล่าวทักทายกับครอบครัวของเจฟ และได้ชักชวนให้เจฟและน้องชาย ไปเล่นที่งานวันเกิดของลูกสาว ของตนด้วย แต่เจฟก็เลือกที่จะปฏิเสธไป วันต่อมา ทั้งเจฟและลูว์ต้องไปที่โรงเรียนใหม่ของพวกเขา ซึ่งถูกอย่างปกติดี จนกระทั่ง มาถึงโรงเรียน ได้มีเด็กคนหนึ่ง ได้เล่นสก็ตบอร์ดและล้มลงต่อหน้าของเจฟ ซึ่งเมื่อ เขาลุกขึ้นพร้อมหยิบสเก็ตบอร์ด และพูดกับเจฟว่า “เราได้เหยื่อรายใหม่แล้ว” และทันใดนั้น เด็กอัก2คนก็โผล่ออกมา อีกคนผอมมาก อีกคนตัวใหญ่มาก เด็กหัวโจกได้กล่าวแนะนำเพื่อนอันธพาลของเขา “ นี่คือเคธและทรอยส์ และฉัน แรนดี้ ทุกคนที่เป็นเด็กใหม่ที่นี่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ” […]
เจาะลึกตำนาน ผีไร้หน้า นปเประโบ แห่งจังหวัดอิวาเตะ

ผีไร้หน้า ในตำนานเมืองแห่งจังหวัดอิวาเตะ เป็นเรื่องราวของชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง ที่ต้องไปธุระที่ต่างเมืองโดยเดินทางผ่านเมืองแห่งหนึ่ง ในช่วงหัวค่ำ และได้พบเจอกับ หญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งร้องไห้อยู่ริมสะพานและก็ได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้ว ใบหน้าของเธอนั้นว่างเปล่า…… ตำนานการหลอกหลอนของ ผีไร้หน้า แห่งจังหวัดอิวาเตะ ชายวัยกลางคนที่ต้องเดินทางข้ามเมือง เพื่อไปทำธุระส่วนตัว ที่เมืองๆหนึ่งจนกระทั่งเขาเดินมาทางผ่านมาที่จังหวัดอิวาเตะ ซึ่งก็เป็นเวลาที่ค่อนข้างดึกแล้วจึงอาศัยนอนอยู่แถวๆนั้น เพื่อรอให้รุ่งสางมาถึงจึงจะออกเดินทางต่อจนกระทั่งเป็นเวลาใกล้จะเช้า ชายผู้นี้ได้ตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงร้องไห้ปริศนา ซึ่งที่มาของเสียงนั้นคือริมสะพานละแวกที่เขานอนอยู่เขาจึงตัดสินใจเดินไปตามที่มาของเสียงร้องไห้นั่นและพบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งร้องไห้และคร่ำครวญกำลังจะกระโดดลงแม่น้ำหวังฆ่าตัวตาย ชายวัยกลางคนที่เห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งไปดึงหญิงสาวออกมาให้ห่างจากสะพานเพื่อเรียกสติแต่ทว่าเมื่อเธอหันใบหน้าของเธอมา…… ก็พบว่าใบหน้านั้น ไม่มีลูกตา ไม่มีคิ้วไม่มีจมูก ไม่มีปาก ไม่มีอะไรบนใบหน้าที่ขาวซีดนั้นทั้งสิ้นเมื่อชายผู้โชคร้ายคนนี้เห็นดังนั้น ก็เกิดสติแตกไปชั่วขณะแต่เมื่อได้สติก็รีบวิ่งหนีไปทันที วิ่งไปเรื่อยๆ……. จนกระทั่งได้พบกับร้านขายราเม็นข้างทางที่กำลังเตรียมของเพื่อเปิดร้านเมื่อเจ้าของร้านพบชายวัยกลางคน ที่สภาพดูเหนื่อยล้าและเหมือนจะเป็นลมจึงเรียกให้เข้ามาให้ร้านเมื่อนั่งพักเรียกสติได้แล้วชายวังกลางคนจึงเล่าเรื่องสุดสยองที่ตนพึ่งได้พบเจอมา จับใจความได้ว่าตนได้ยินเสียงร้องไห้จากริมสะพานและพบว่าเป็นเสียงร้องของหญิงสาวที่พยายามฆ่าตัวตาย ตนจึงหวังดีและรีบวิ่งไปดึงผู้หญิงคนนั้นให้ออกห่างจากสะพาน แต่เมื่อหญิงสาวคนนั้นได้หันใบหน้ามามองเขา ก็พบว่าเธอไม่มีหน้าเป็นเพียงผิวหนังขาวซีด ตนกลัวจึงรีบวิ่งหนีจนมาเจอร้านราเม็งแห่งนี้เมื่อเจ้าของร้านได้ยินเช่นนั้น จึงพูดขึ้นมาว่า“อย่างงี้นี่เอง ที่เจ้าเจอมาคือ ผีไร้หน้า ว่าแต่ที่เจ้าไปเจอมาน่ะ ใบหน้าของมันเป็นแบบนี้หรือเปล่าละ”เมื่อเจ้าของร้านหันหน้ามา ก็ปรากฏว่าเป็น ผีไร้หน้า เช่นเดียวกันชายคนนี้จึงสลบไปและตื่นมาอีกทีตอนเช้า…..อย่างมึนงง #ผีไร้หน้า #นปเประโบ #เรื่องลี้ลับ
เจาะลึกตำนาน ผีน้อยผู้น่าสงสาร อาคานาเมะ ( Akaname The filth licker Yokai )

ห้องน้ำญี่ปุ่นสมัยก่อน มักจะแยกออกจากตัวบ้านเรือน และมักจะมีช่องว่างระหว่างกำแพงและเพดาน และในห้องน้ำของคนสมัยก่อน มักจะเต็มไปด้วยคราบสกปรกมากมาย แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกที่คราบสกปรกเหล่านั้น มักหายไปอย่างปริศนา แต่จะถูกทิ้งไปด้วยคราบน้ำลายและรอยถูกเลียต่างๆ จึงเป็นที่มาของตำนาน อาคานาเมะ ผีน้อยที่มีร่างกายซูบผอม ลิ้นยาว ที่มีชีวิตอยู่ได้ ด้วยการเลียคราบสกปรกตามห้องน้ำ…… การปรากฏตัว และการทิ้งร่องรอยของ อาคานาเมะ อาคานาเมะ เป็นโยไค หรือที่รู้จักกันใน ผีจำพวกอสูรกายตามตำนานความเชื่อของญี่ปุ่น มีรูปร่าง ที่ตัวสูง ไม่มาก ซูบผอม ผิวหนังเหี่ยวย่น ( บ้างก็ว่ามีสีแดง ) ดวงตากลมโตสีเหลืองอร่าม ทั้งมือและเท้าของมัน จะมีอยู่เพียงข้างละสองนิ้วเท่านั้น โดยอาหารที่ อาคานาเมะ โปรดปรานมากที่สุดคือ ของเสียและคราบสกปรกต่างๆที่อยู่ ตามห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใดก็ตาม เช่น ฝาผนัง เพดาน ฝ้า ประตู อ่างน้ำ หรือรอบๆบริเวณชักโครก อาคานาเมะ เป็นโยไคที่ถูกจัดเป็นประเภทที่ต้องอาศัยอยู่ด้วยการกินของสกปรกและของเสียเป็นอาหาร ซึ่งคล้ายกับผีไทยในตำนานเช่น […]
เจาะลึกตำนาน คำสาป สาวสองปาก คำสาปที่มอบความทรมานแก่ผู้ได้รับ( Futakuchi Onna )

สาวสองปาก เป็นตำนานเกี่ยวกับคำสาปของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ได้รับคำสาปจากบาปกรรมและต้องทนทุกข์ทรมานกับมันมายาวนานแสนนาน ซึ่งตำนานของ สาวสองปาก ถูกแบ่งออกเป็นสองตำนานใหญ่ๆ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันในบางส่วน แต่จะแตกต่างในเนื้อหาบางหน้าเล็กน้อย ตำนานของคำสาปนรก สาวสองปาก บาปกรรมสำหรับผู้เห็นแก่ตัว ตำนานของ สาวสองปาก 1. ตำนานแรก เป็นตำนานที่ถูกเล่าเกี่ยวกับหญิงสาวที่มีรูปร่างอ้วนท้วม แต่เกิดความคิดอยากมีหุ่นที่ผอมเพรียว สวยงามดั่งหญิงสวยคนอื่น จึงตัดสินใจอดอาหารและของชอบของตัวเอง โดยไม่กินอะไรเลยแม้กระทั่ง อาหารเช้า อาหารมื้อสำคัญ เธอก็ยังตัดออกจากชีวิต เธอทนอดอาหารอยู่นาน โดยดื่มเพียงแค่น้ำเปล่าเท่านั้น จนเวลาผ่านไปร่วมเดือน หุ่นของเธอก็เริ่มผอมโซ ไม่อ้วนเหมือนแต่ก่อน แต่อยู่มาวันหนึ่ง ที่กะโหลกศีรษะด้านหลังของเธอ ก็แยกออกจากกันกลายสภาพคล้ายกับปากของมนุษย์ และเส้นผมของเธอก็ทำหน้าที่คล้ายมือที่คอยหยิบจับ อาหารต่างๆ มาให้ปากที่สองของเธอ กินอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทุกครั้งที่ปากด้านหลังของเธอ เคี้ยวอาหาร มันจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเธอเป็นอย่างมาก จนเธอเสียชีวิตในที่สุด 2. ตำนานที่สองของ สาวสองปาก เล่าว่า มีแม่เลี้ยงคนหนึ่งที่รักลูกของตนเองมาก แต่กลับแสดงความเกลียดชังแก่ลูกเลี้ยง ซึ่งเป็นลูกติดของสามี เวลาที่ผู้เป็นสามีไม่อยู่บ้าน เธอมักจะทุบตีหรือใช้ความรุนแรงกับลูกเลี้ยงของเธออยู่เสมอ และเวลาทานอาหาร เธอมักจะทำอาหารที่อร่อยให้กับลูกแท้ๆของตัวเอง แต่มักจะให้ลูกเลี้ยงอดอาหาร […]
ครีปปี้พาสต้า ตำนานสยอง Eyeless Jack ชายไร้ดวงตาผู้มากับความมืด

Eyeless Jack เป็นเรื่องเล่าสยองขวัญออนไลน์ หรือที่เรียกกันว่า ครีปปี้พาสต้า โดยเป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ต้องพบว่าไตของเขาหายไปอย่างปริศนา เหลือเพียงบาดแผลจากการผ่าตัด โดยที่เขาไม่อาจรู้เลยว่าสิ่งที่มาเอาไปนั้น เป็นมนุษย์หรือสิ่งเหนือธรรมชาติกันแน่ Eyeless Jack ปีศาจตากลวงผู้ทะลวงเครื่องใน…..มนุษย์ “สวัสดีครับ ผมชื่อ มิช เมื่อไม่นานมานี้บ้านของผมโดนธนาคารยึด และตอนี้ผมก็กำลังเก็บข้าวของเพื่อย้ายไปบ้านพี่ชายของผม ชื่อเอ็ดวิน ผมตื่นเต้นมากที่อย่างน้อยก็จะได้ไปอยู่กับพี่เพราะผมเองก็ไม่ได้เจอหน้าพี่ชายมาเกือบๆ10ปีแล้วเหมือนกัน อย่างน้อยก็เป็นเรื่องดีในเรื่องแย่ที่ทำให้ผมได้พบกับพี่ชาย “ หลังจากที่ผมย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ได้1สัปดาห์ ตลอดเวลาที่มาอยู่ที่นี่มันก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลย แต่วันนี้มันผิดแปลกไปจากทุกวัน ในคืนนั้น ขณะที่ผมกำลังจะหลับ ผมได้ยินเสียงดังกรอบแกรบๆอยู่นอกหน้าต่าง แต่ผมก็คิดว่าอาจเป็นเสียงของแร๊คคูน จึงไม่ได้คิดอะไรมาก และในคืนต่อมาผมได้ยินเสียงหน้าต่างที่ห้องของผมเปิดออก ผมจึงพุ่งขึ้นมาเพ่งมองไปรอบๆห้องทันที แต่ก็นั้นแหละไม่มีอะไรผิดแปลกไปจากทุกวัน แต่เมื่อผมตื่นเช้ามาสิ่งที่พี่ชายผมทักเป็นคำแรกก็คือ ใบหน้าของผมที่รอยแผลที่ช้ำอย่างมาก ผมจึงตัดสินใจไปหาหมอ แต่สิ่งที่หมอบอกกับผมก็คือ ไตซ้ายของผมหายไป พร้อมเปิดเสื้อของผมให้ดูแผลคล้ายรอยผ่าตัด ผมตกใจมาก แต่ก็ทำได้แค่สงสัย ในคืนนั้น ประมาณเที่ยงคืน ผมตื่นเพราะได้ยินเพียงประหลาดบางอย่าง แต่ทันทีที่ลืมตาขึ้นมา พบว่ามีชายผู้หนึ่งสวมฮู้ดและหน้ากากสีน้ำเงิน ไม่มีดวงตา แต่ผมก็ใช้กล้องที่อยู่ข้างที่นอนถ่ายรูปของมันไว้ได้ ก่อนที่ผมจะถีบมันและวิ่งหนีออกมาจากบ้าน จนผมสะดุดกับหินในป่าและหมดสติในคืนนั้น ผมฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาลและหมอก็ได้บอกกับผมว่า ข่าวดีคือผมบาดเจ็บแค่เล็กน้อยและครอบครัวกำลังมารับผม แต่ข่าวร้ายคือพี่ถูกฆ่าตายอย่างปริศนา ผมเสียใจมากแต่ก็ต้องพาครอบครัวกับไปที่บ้านหลังนั้น เพื่อเก็บข้าวของ ผมเดินเข้าไปในห้องโถงซึ่งศพของพี่ชายยังนอนอยู๋อย่างนั้นเพราะตำรวจกำลังดำเนินสืบคดี […]